ดูเหมือนว่าเควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne) จะไม่ได้ใช้เวลาที่เหลือกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ในแบบผ่อนคลายเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตกึ่งรีไทร์ในเมเจอร์ลีก หรือที่ไหนก็ตาม เพราะเป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) ยังมีภารกิจสุดท้ายรอเขาอยู่ และจากฟอร์มการเล่นในเกมที่ซิตี้พลิกแซงเอาชนะคริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) 5-2 นั้น ไม่มีใครเหมาะสมกับงานนี้มากไปกว่าเดอ บรอยน์อีกแล้ว เว็บแทงบอล sbobet
เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และแมนฯ ซิตี้ก็ต้องการเขาแบบนั้นจริงๆ ในบทบาทฟอลส์ไนน์แท้ ๆ การเคลื่อนไหวและใช้พื้นที่ของเขาทำให้แผงหลังของพาเลซสับสน สร้างช่องว่างให้ผู้เล่นอย่างโอมาร์ มาร์มูช และอิลคาย กุนโดกัน เติมเกมรุกเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ง่ายขึ้น การที่กุนโดกันไม่ต้องรับภาระเกมรับและได้โอกาสเติมเข้าเขตโทษ ทำให้แผนการเล่นของซิตี้ดูย้อนยุคและน่าตื่นเต้น
หลังจากผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไป ซิตี้ก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง และพาเลซก็ไม่มีคำตอบรับมือได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พาเลซเป็นทีมที่ฟอร์มร้อนแรง ไม่เคยเสียเกิน 2 ประตูต่อเกมตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส และแพ้แค่สองนัดเท่านั้น แต่เมื่อเดอ บรอยน์เริ่มใช้เวทมนตร์ของเขา เกมก็เปลี่ยนทันที
ลูกฟรีคิกปั่นโค้งลดช่องว่างเหลือ 2-1 ในนาทีที่ 33 จากนั้นเขาโหม่งคืนให้กุนโดกันยิงพลาดแต่บอลไปเข้าทางมาร์มูชซัดเข้าไป เริ่มครึ่งหลัง เขาก็มีสติพอจะตอกส้นบอลให้มาเตโอ โควาซิช ยิงเสียบตาข่ายแซงนำ
การจ่ายบอลของเขาในเกมนี้ถือว่ายากจะต้านทาน เขาครอสบอลผ่านช่องแคบสุดๆ ให้มาร์มูชได้ลุ้น และยังมีอีกหลายจังหวะที่ควรได้แอสซิสต์ เมื่อยืนประจำการตรงมุมกรอบเขตโทษฝั่งขวา เขาดูเหมือนมีเวลามากพอจะประเมินสถานการณ์ รอจังหวะ และส่งบอลอย่างแม่นยำทุกครั้ง เว็บแทงบอล sbobet
นี่คือเดอ บรอยน์ในแบบก่อนยุคเออร์ลิง ฮาแลนด์ เป็นจุดศูนย์กลางที่เกมรุกหมุนรอบตัวเขา ทุกคนในทีมได้ประโยชน์จากแนวทางการเล่นนั้น ซิตี้ยิงได้ 5 ประตูจากผู้เล่น 5 คน ต่างก็มีส่วนร่วม ซึ่งดูเหมือนว่ากวาร์ดิโอล่าจะเจอแผนเกมรุกที่ลงตัวแล้วหลังจากลองมาหลายแบบ นับตั้งแต่ฮาแลนด์บาดเจ็บหนัก
ชัยชนะในเกมนี้ช่วยให้แมนฯ ซิตี้ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 แต่ถ้าเชลซีและนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดชนะในเกมตกค้าง พวกเขาอาจหลุดจากพื้นที่แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลของซิตี้ยังอยู่บนเส้นด้าย และยิ่งน่ากังวลหากเดอ บรอยน์ฟอร์มตก หรือแย่กว่านั้น – ได้รับบาดเจ็บอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงปลายอาชีพของเขาที่ซิตี้
ยิ่งไปกว่านั้น เกมรับของซิตี้ดูเปราะบางตลอดทั้งเกม ฟูลแบ็กดาวรุ่งอย่างนิโก้ โอไรลี่ย์ และริโก้ ลูอิส ถูกดึงตำแหน่งง่ายเกินไป โดยเฉพาะลูอิสที่ปล่อยให้เอเบเรชี เอเซ่หลุดเข้าไปยิงได้ตั้งแต่นาทีที่ 6 และการประกบตัวหละหลวมทำให้คริส ริชาร์ดส์ โหม่งจากลูกเตะมุมเป็นประตู ยังดีที่เทคโนโลยีล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติครั้งแรกของพรีเมียร์ลีกช่วยปฏิเสธประตูที่สองของเอเซ่ได้ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้เดอ บรอยน์ต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในสนาม
มันเป็นสัญญาณน่ากังวลสำหรับซิตี้ ที่ต้องพึ่งพาผู้เล่นวัย 33 ปีที่ร่างกายเริ่มโรยรา แต่อีกเพียงไม่กี่เกมระดับนี้ เดอ บรอยน์ก็จะสามารถอำลาสโมสรไปอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติที่สุด