ลิเวอร์พูล (Liverpool) คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก (Premier League) อย่างยิ่งใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังเปิดสนามแอนฟิลด์ไล่ถล่มท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ไปถึง 5-1 ชัยชนะในเกมนี้ส่งผลให้ “หงส์แดง” ทิ้งห่างทีมอันดับสองถึง 15 คะแนน โดยเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีกเพียง 4 นัดเท่านั้น พวกเขาต้องการเพียงแค่ผลเสมอเพื่อการันตีแชมป์ แต่กลับทำได้ดียิ่งกว่านั้นด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงและเฉียบคม sbobet
แม้จะเริ่มต้นเกมด้วยความกดดัน เมื่อโดมินิก โซลันกี้ ยิงให้สเปอร์สขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 12 แต่ลิเวอร์พูลก็ตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว หลุยส์ ดิอาซ ยิงตีเสมอในนาทีที่ 16 และจากนั้นเกมก็ไหลลื่นไปตามสไตล์การเล่นของเจ้าบ้าน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โคดี้ กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และการทำเข้าประตูตัวเองของเดสทินี่ อูโดกี้ ช่วยกันทำให้ทีมคว้าชัยแบบขาดลอย พร้อมกับการฉลองแชมป์อย่างสมบูรณ์แบบท่ามกลางแฟนบอลในแอนฟิลด์
ตลอดฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวเต็งอย่างแท้จริง พวกเขาแพ้เพียงแค่สองนัด และสามารถครองความได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างเหนียวแน่น โดยทิ้งห่างอันดับสองมากกว่า 10 คะแนนมาโดยตลอด เป็นบทพิสูจน์ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่นภายใต้การนำทีมของกุนซือคนใหม่ อาร์เน่ สลอต
แม้จะเป็นฤดูกาลแรกของเขากับทีม แต่สลอตสามารถพาลิเวอร์พูลกลับมาผงาดได้อย่างรวดเร็วด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันและมีประสิทธิภาพ ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องยืนยันถึงการตัดสินใจที่ถูกต้องของสโมสรเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับความสำเร็จในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก หรือการไล่ล่าความสำเร็จในเวทียุโรปในฤดูกาลถัดไป
หนึ่งในกุญแจสำคัญของการคว้าแชมป์ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ คือฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ที่ทำไปถึง 28 ประตูและ 18 แอสซิสต์ ถือเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขานับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก sbobet
ผลงานของซาลาห์มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเกมรุกของลิเวอร์พูลให้ร้อนแรงและคงเส้นคงวาตลอดฤดูกาล เขาไม่เพียงแค่ทำประตูเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จในครั้งนี้จึงเป็นผลสะท้อนจากการทำงานหนักของเขา และเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าซาลาห์ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นแนวรุกที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลปัจจุบัน
การคว้าแชมป์ครั้งนี้นับเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกของลิเวอร์พูลนับตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 และเป็นแชมป์ลีกครั้งที่สองนับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกเริ่มต้นขึ้นในปี 1992 เป็นการปลุกความยิ่งใหญ่ของสโมสรอีกครั้ง และตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษอย่างเต็มภาคภูมิ